การเปลี่ยนไส้กรองน้ำไม่ใช่เรื่องยาก แค่ทำตาม 10 ขั้นตอนนี้
1. ตรวจสอบประเภทไส้กรองที่ต้องใช้
- ตรวจสอบว่าไส้กรองของเราเป็นประเภทอะไร เนื่องจากไส้กรองแต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน โดยสามารถตรวจสอบได้จากคู่มือหรือสอบถามจากผู้ผลิตโดยตรง
2. ปิดวาล์วจ่ายน้ำสำหรับเครื่องกรอง
- ขั้นตอนแรกก่อนเปลี่ยนไส้กรองคือการปิดวาล์วจ่ายน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าระบบกรองในขณะที่เรากำลังเปลี่ยนไส้กรอง
3.ไล่แรงดันในระบบกรอง
- ขั้นตอนถัดไปก่อนจะถอดไส้กรองเก่าคือการไล่แรงดันในระบบกรอง ให้หาปุ่มหรือวาล์วแรงดันและกดเพื่อไล่แรงดันออก
4. ถอดไส้กรองเก่าออก
- ถอดไส้กรองให้ถูกต้องตามประเภทไส้กรองที่ใช้ ทั้งนี้ควรทำตามคำแนะนำของผู้ผลิต เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับระบบกรอง
5. ทิ้งไส้กรองเก่า
- หลังจากถอดไส้กรองออกจากกระบอกแล้ว ให้นำไส้กรองไปทิ้งโดยศึกษาข้อกำหนดก่อนการทิ้ง เนื่องจากไส้กรองบางตัวสามารถนำไปรีไซเคิลได้
6. ทำความสะอาดกระบอกไส้กรอง
- กระบอกไส้กรองที่ใช้เป็นเวลานานจะมีเศษตะกอนหรือสิ่งสกปรกสะสมอยู่ ให้นำผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดด้านในกระบอกเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกเหล่านั้น
7. ติดตั้งไส้กรองใหม่
- ติดตั้งไส้กรองให้ถูกต้องตามระบบหรือคำแนะนำจากผู้ผลิต อาจมีทั้งการใส่ไส้กรองเข้าที่เครื่องโดยตรง หรือใส่ในกระบอกก่อนประกอบเข้าเครื่อง
8. เตรียมไส้กรองให้พร้อมใช้งาน
- จำเป็นต้องเตรียมไส้กรองให้พร้อมก่อนใช้งานโดยการปล่อยน้ำเข้าเครื่องกรอง ให้น้ำล้างสิ่งสกปรกและไล่อากาศในไส้กรองให้เรียบร้อย เพื่อให้ไส้กรองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
9. เปิดวาล์วจ่ายน้ำสำหรับเครื่องกรอง
- เปิดวาล์วจ่ายน้ำสำหรับเครื่องกรองเพื่อดูว่าเครื่องกรองสามารถใช้งานตามปกติได้หรือไม่ ตรวจเช็คและแก้ไขหากมีน้ำรั่วไหลหรือเสียงผิดปกติซึ่งอาจเป็นผลมาจากการใส่ไส้กรองได้ไม่เรียบร้อย
10. ตรวจสอบอัตราการไหลของน้ำ
- เมื่อระบายน้ำในระบบทิ้งแล้ว ให้ตรวจสอบอัตราการไหลของน้ำ หากน้ำไหลช้าอาจเกิดจากไส้กรองอุดตัน หรือระบบกรองมีปัญหา